วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ภาษา จักรยาน ที่ท่านคุ้นเคย

การฝึกซ้อมจักรยาน

    คำศัพท์ หรือภาษาที่ผมคิดว่าทุกท่านน่าจะคุ้นหูกันพอสมควร และที่ผมจะมานำเสนอนี้ เป็นศัพท์ที่ทุกท่านอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ถ้าหากท่านได้ไปปั่น จักรยาน กับกลุ่มเพื่อนๆ หรือปั่นกับกลุ่มอื่นๆ หรือชมรมที่มีแต่คนแรงๆ แต่ผู้ที่เข้ามาในวงการ จักรยาน ใหม่ๆ หรืออาจเรียกว่า มือใหม่นั้นอาจจะยังไม่เคยได้ยินหรือไม่คุ้นหูเท่าไหล่ แต่พอท่านปั่นไปนานๆ ก็จะรู้เองว่าศัพท์ที่ผมนำมา แบ่งปันนั้นเขาใช้กันจริงๆ นะครับ อาจจะพูดในใจ หรือพูดกันในหมู่เพื่อนที่ร่วมปั่นด้วยกัน ทั้งต่อหน้า และลับหลัง หรือที่เขาเรียกว่า นินทาลับหลังนั่นแหละครับ งั้นเรามารู้จักศัพท์ต่างๆ กันเลยครับ

  • "หลุด" คำนี้นักปั่นจักรยานไม่ว่า มือเก๋า หรือมือใหม่ต้องคุ้นเคยกับคำ คำนี้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นเด็กใหม่ หรือ ผู้ที่ไม่ค่อยได้ซ้อมบ่อยๆ แล้วละก็คำนี้มันชั่งเป็นคำที่ทุกท่านไม่ชอบเลย ยิ่งถ้าไปเจอพวกเพื่อนๆ ที่แรงๆ แล้วแทบไม่อยากออกไปขี่ด้วยเลย ลักษณะ ที่สำคัญของคำว่า "หลุด" คือ เราปั่นไปพร้อมกับกลุ่มไปได้สักพัก พอเพื่อนในกลุ่มแร่งความเร็วในการปั่นจักรยานขึ่นไปเลื่อยๆ จนไปถึงความเร็วที่เราไม่สามารถทนอยู่ได้ แล้วเราก็เลยหลุดออกจากกลุ่มแล้วมองกลุ่มที่กำลังปั่นด้วยความเร็วสูงค่อยๆ หายไป ทีละน้อยๆ ต่อหน้าต่อตามันชั่งเป็นคำที่บาดใจเสียเหลือเกิน ดังนั้นเราควรกลับมาซ้อม หรือเตรียมพร้อมตัวเองให้ดีกว่าเดิม เพื่อกลับไปขี่จะได้ไม่หลุดจากกลุ่มนั่นเอง นี่คือวิธีแก้ไขครับ
  • "จี้" คำนี้หลายท่านคงชอบนะครับ มันไม่ได้หมายถึงการไป จี้ หรือ ไปปล้นใครนะครับ ที่ถูกต้องแล้วมัน หมายถึงการที่ขี่ตามเพื่อนนักปั่นแบบไกล้ๆ ยิ่งไกล้เท่าไหล่เรายิ่งเสียแรงในการปั่นจักรยานน้อยลงเท่านั้น เพราะผู้ที่ขี่อยู่ข้างหน้าเราจะเป็นตัวที่บังลม หรืออากาศไม่ให้มาประทะกับเราทำให้เรา ใช้แรงในการปั่นน้อยลง ยิ่งเวลาระหว่างการแข่งขันด้วยแล้ว การจี้ จะถูกนำมาใช้กันมาก แต่เวลาทำการฝึกซ้อมเราไม่ควร จี้ ให้มากนักนะครับ นอกจากเราจะไม่แข็งแกร่งขึ้นแล้ว เรายังจะเป็นที่รังเกียจของเพื่อนๆ ที่ร่วมซ้อมกับเราเพราะเราไปกินแรงเขามากเกินไป แต่ถ้าเรามีเหตุผลในการจี้อย่างเดียวก็ควร อธิบายให้เพื่อนในกลุ่มได้รู้ก่อนออกไปฝึกซ้อม ได้จะดีมากครับ เพื่อนๆ จะได้เข้าใจ และไม่คิดกับเราในด้านลบ
  • "เฆี่ยน" คำนี้ในวงการจักรยานนั้นหมายถึง นักปั่นจักรยานที่มีความฟิตมากๆ ไปขี่กับนักปั่นคนอื่นๆ แล้วตัวเองขี่ด้วยความเร็วสูงมากๆเพื่อหวังว่าคนอื่น หรือนักปั่นคนอื่นจะหลุด จากการที่ตัวเองขี่ด้วยความเร็วสูง อันที่จริงแล้วตามมารยาทในการฝึกซ้อมไม่ควรใช้ครับ การเฆี่ยน ควรใช้ในการแข่งขันมากกว่า ถ้าท่านแรงจริงควรไปเจอกันในระหว่างแข่งขันไม่ใช่ว่าไปทำคนที่แรงน้อยๆ หรือเด็กไหม่ครับไม่งั้นถ้าท่านทำบ่อยๆ อาจจะมีคนหมั่นใส้ และ ท่านจะเจอกับคำที่ผมจะนำเสนอต่อไป
  • "สวน" คำนี้มีใว้สำหลับผู้ที่ทำการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี จนมีแรงแบบเหลือๆ แต่ท่านควรใช้ในเหตุการณ์ที่สมควรด้วยนะครับ และถ้าท่านเจอนักปั่นจักรยานที่มีนิสัยตามข้อ 3 เราอนุญาติให้ท่าน สวน ได้เลยครับตามสบายครับ แต่ต้องสวนให้เขาผู้นั้นหลุด ไปเลยนะครับ เรียกว่าเป็นการบอกให้เขาผู้นั้นรู้เป็นนัยๆ ว่าคนแรงกว่าท่านยังมีอีกเยอะ การ สวน คนอื่นนั้นถ้าเราคิดว่าเราไม่พร้อมหรือไม่แรงจริงอย่าทำ ครับเพราะเราจะเป็นฝ่ายที่ถูกสวนกลับ และกลายเป็นผู้ที่หลุดจากกลุ่มเอง

    ภาษาในกลุ่มนักปั่นจักรยานยังมีอีกเยอะแยะครับไว้วันหน้าวันหลังถ้าผมว่างๆ จะเอา ศัพท์ แปลกๆ ตลกๆ มากฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อีกนะครับวันนี้ขอจบบทความนี้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ บทความนี้ถึงจะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหล่ แต่ก็คิดเสียว่าอ่านให้ได้คลายเคลียดกันก็พอครับ ขอบคุณครับ

1 comments:

การที่เราออกไปปั่นจักรยานฝึกซ้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ แล้วกลับมาพูดคุยกันเกี่ยวกับการได้ออกไปขี่ในทริปดังกล่าวมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุข และอยากออกไปปั่นในวันต่อๆ ไปอีก และยังมีผลดีกับพัฒนาการของเราด้วย หากเรามีข้อบกพร่องในเรื่องใด เพื่อนในกลุ่มก็จะช่วยบอกเราได้ จึงทำให้เราขี่ได้ดีขึ้น

แสดงความคิดเห็น