การแข่งขัน จักรยาน รายการต่างๆ ที่น่าสนใจ

รวบรวมการแข่งจักรยาน รายการต่างๆ ที่น่าสนใจ ในส่วนนี้ ผมจะพยายาม หามาฝาก ให้ได้มากขึ้นครับ

จักรยานเสือภูเขา

สำหรับ ท่านที่เป็นแฟน จักรยานเสือภูเขา ทางผมจะพยายาม นำเรื่องราว เกี่ยวกับจักรยานประเภทนี้มานำเสนอให้มากขึ้น ครับ ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันยังน้อยอยู่ โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยถนัด ทางเสือภูเขามากเท่าไหร่ครับต้องขออภัย ไว้ล่วงหน้าหากมีข้อมูลผิดพลาด ครับ

อะไหล่ จักรยาน และเทคโนโลยี ต่างๆ

ในปัจจุบัน มีการพัฒนาไปมากครับ จนเราๆ ท่านๆ แทบจะหาเงิน มาเปลี่ยน อะไหล่พวกนี้กันแทบไม่ทัน ใครที่มีทุนมากหน่อย ก็สบายหน่อยครับ ได้ใช้ของใหม่ ก่อนใครเพื่อน ส่วนใครทุนน้อย ก็คงต้องรอของมือสองกันละครับ

จักรยาน BMX

จักรยาน BMX เป็นจักรยานที่ได้รับความนิยม มาอย่างยาวนาน และการพัฒนาของจักรยานประเถทนี้ ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่า จักรยาน ประเภทอื่นเลยครับ

จักรยาน ไทม์ไทรอัล

จักรยาน ประเภท ไทม์ไทรอัล หรือที่ใครหลายคน เรียกว่าจรวจทางเรียบ นั่นแหละครับ

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เคล็ดลับสำหรับการปั่น จักรยาน ทางไกลระยะทาง 100 กิโลเมตรขึ้นไป

ปั่นจักรยานทางไกล

    สำหรับนักปั่นจักรยานหลายๆ คนการที่จะปั่นจักรยานให้ได้ระยะทาง 100 กิโลเมตร ขึ้นไปนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะครับ ยกเว้นสำหรับผู้ที่เป็นนักกีฬาปั่นจักรยานอยู่แล้ว 100 ก.ม ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักกีฬา จักรยาน แล้วละก็การที่ปั่นจักรยานเป็นระยะทางไกลๆ 100 ก.ม ขึ้นไปนั้นถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะครับ แต่เราต้องมีการเตรียมตัวกันหน่อย ถือว่าไปปั่นจักรยานเที่ยวก็แล้วกันอย่าไปจริงจังกับเรื่องความเร็วให้มากนักครับเดี๋ยวจะปั่นไม่ครบ 100 ก.ม แถมกลับมาบ้านเราอาจจะไม่สบายได้ เพราะออกกำลังมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับใหว อันนี้สำคัญมากนะครับ และนี่ยังเป็นสาเหตุหลักๆ เลยที่ทำให้ผู้ที่ปั่นจักรยานเบื่อการปั่นจักรยาน และเลิกปั่นไปในที่สุด

    ยกตัวอย่างแบบง่ายนะครับ ถ้าคุณจะปั่นจักรยานระยะทางประมาณ 120 ก.ม โดยใช้ความเร็วประมาณ 20 - 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทริปนี้คุณจะใช่เวลาในการปั่นประมาณ 6 ชั่วโมง ขึ้นไป แต่ไม่น่าจะเกิน 8 ชั่วโมง นะครับเวลานี้เผื่อสำหรับการแวะทานอาหารเที่ยง และทำธุระต่างแล้ว แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่นเส้นทางที่เราจะไปปั่น เป็นทางเรียบ หรือว่ามีทางขึ้นเขา หากเส้นทางที่เราไปปั่นเป็นเขาเยอะๆ เราควรเผื่อเวลาไว้ด้วยครับเพราะความเร็วที่เราใช้ปั่นจะช้าลง ดังนั้นเราควรจะศึกษาเส้นทางกันก่อนแล้วจึงมาคำนวนเวลาในการปั่น แล้วจึงเตรียมตัวอีกทีครับ

เคล็ดลับการปั่นจักรยานให้ครบระยะทางที่เราตั้งเป้าหมายไว้

การเตรียมตัวก่อนออกไปปั่นจักรยาน
    คุณจะต้องคำนวนเวลาว่าวันนี้เราจะปั่นโดยใช้เวลาประมานกี่ชั่วโมง และกำหนดเวลาในการเริ่มต้นปั่นว่าเราจะออกไปปั่นเวลากี่โมง และจะกลับถึงที่พัก หรือบ้านเวลากี่โมง เอาแบบคล่าวๆ ครับไม่ต้องตรงเวลาเปะ แต่โดยส่วนตัวผมเอง ผมจะออกไปปั่นแต่เช้าหน่อยครับ เพราะจะเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน 7 - 8 โมงเช้าเพราะการจราจร จะคับคั่งเกินไป

มันอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะปั่นแบบไหน
การที่เราปั่นจักรยาน ระยะทางไกลๆ นั้นความเมื่อยล้านั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้วครับ จงพักหากเราอยากจะพัก มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยที่เราจะต้องนั้งบนอานจักรยานตลอด เช่นหากเราเห็นวิวทิวทัศน์สวยๆ ตามทางที่เราปั่นไป เราอาจจะแวะถ่ายรูปเก็บไว้ดู ภายหลัง จงอย่าเครียดนึกเสียว่าเป็นการไปเที่ยว

กินให้เยอะๆ
    ในระหว่างการปั่นจักรยานเราควรทานของว่าง หรือขนมไปด้วย และพยายามกินบ่อยมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ซึ่งของว่างหรือ ขนมนั่นควรจะเป็นของที่ให้พลังงานสูงเพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้ร่างกายของคุณ หากคุณไม่ได้พลังงานที่เพียงพอแล้วละก็ ผลที่ตามมานั้น มันค่อนข้างจะหนักนะครับ ยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของตัวผมเอง ตอนที่เริ่มปั่นจักรยานใหม่ๆ ตอนนั้นออกไปซ้อมกับรุ่นพี่คนหนึ่ง ระยะทางในการปั่นประมาน 150 ก.ม แถมยังเป็นทางที่เป็นเขาเยอะด้วยครับ ระหว่างทางผมไม่ค่อยได้ทานอะไร ยกเว้น พักทานข้าวเที่ยง และน้ำเปล่าอีก 2 ขวด เหตุเกิดตอนไกล้จะถึงบ้าน คือเหลืออีก ประมาณ 20 ก.ม จะถึงบ้านแล้วผมก็รู้สึก ว่าตัวเองไม่มีแรงขึ้นมาเฉยๆ คล้ายๆ กับรถเวลาน้ำมันหมดนั้นแหละครับ อาการคือ ตัวจะเย็นๆ และใจเราจะหวิวๆ หากปั่นต่อผมคงน็อคคา จักรยานแน่ ผมเลยบอกพี่เขาว่าเราใจหวิวๆ หมดแรง พี่เขาเลยรีบจอด และซื้อน้ำอัดลมให้ผมทาน และนั่งพักกันสักพัก แรงผมก็เริ่มกลับมาแบบน้อยๆ พอจะพาตัวเองกลับบ้านได้ หลังจากทริปนั้นเวลาผมออกไปปั่นระยะทางไกลอีก ผมพกขนมเพียบครับ ประเภทว่ากระเป๋าตุงกันเลยครับ เพราะเข็ดแล้วครับ

ดื่มน้ำเยอะๆ เข้าไว้
    น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เวลาปั่นจักรยาน ร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำออกไป โดยเหงือของเรานั้นเองครับ การจิบน้ำบ่อยเวลาปั่นนั้นจึงควรทำให้เป็นนิสัย พอนานๆ ไปเราจะคล่องเองครับ วิธีทดสอบง่ายว่าร่างกายของเราได้รับน้ำเพียงพอหรือไม่ คือระหว่างทางเวลาเรา แวะ เบา หรือปัสสาวะ ให้สังเกตุสีของมันหากเป็นสีเหลืองเข้ม แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ควรชดเชยน้ำให้ร่างกายอย่างเพียงพอ โดยเวลาปั่นควรจิบน้ำให้ถี่ขึ้น

อาหารกลางวันอย่าลืมครับ
    แวะรับประทานอาหารเที่ยง ควรทานให้มากๆ และควรเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ไม่ต้องกลัวอ้วนครับ ทานเข้าไป ให้มากเท่าคุณจะทำได้ ผลดีของมันนั้นไม่ได้มีเฉพาะระหว่างปั่นจักรยาน แต่มันจะส่งผลดีต่อเนื่องไปจะถึง หลังจากที่เราปั่นจักรยาน เสร็จแล้วมันจะทำให้เราไม่รู้สึกอ่อนเพลียมากเกินไปจากการออกไปปั่นจักรยานไกลๆ  พอเราทานอาหารเสร็จเราควรนั่งพักให้อาหารย่อยบ้างสัก 30 นาที แล้วค่อยออกไปปั่นต่อครับ

ประสบการณ์จะได้รับจากช่วงปั่นกลับนี่แหละครับ
    เมื่อคุณเสร็จสิ้นการทานอาหารกลางวันแล้วก็ถึงเวลาสำหรับช่วงครึ่งหลังของการปั่นจักรยานทริปนี้แล้ว  ทุกอย่างจะค่อยๆ เข้ามาหา เช่นความอ่อนล้า ความปวดเมื่อย และอื่นๆ  แต่คุณต้อง ทนให้ได้ และคิดบวกเข้าไว้อย่าถอดใจโดยการโบกรถ สองแถว กลับบ้านนะครับ เพราะถ้าหากเราทำสำเร็จตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ถือว่าเราได้ชนะใจตัวเอง แล้วเพราะมันยิ่งใหญ่กว่าเราชนะคนอื่นๆ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : การแข่งขันจักรยานทางไกล ตูร์เดอฟรองซ์

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การแข่งขันจักรยานทางไกล ตูร์เดอฟรองซ์

ตูร์เดอฟรองซ์

ประวัติการแข่งขันจักรยาน ตูร์เดอฟรองซ์

Henri Desgrange
Tour de France หรือ ตูร์เดอฟรองซ์ เป็นการแข่งขัน จักรยาน ทางไกลที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีการก่อตั้ง และจัดการแข่งขันขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ 1903 โดย Henri Desgrange และหนังสือพิมพ์ ออโต้แอล โดยจะมีการจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปีใน ประเทศฝรั่งเศส ประมานเดือน กรกฎาคม ในการแข่งขันจักรยานรายการนี้จะใช้ระยะทางรวมในการแข่งขันนั้นมากกว่า 3,000 กิโลเมตร โดยชาวฝรั่งเศสถือว่า การแข่งขันจักรยาน รายการนี้มีชื่อเสียงที่สุดในโลกรายการหนึ่ง โดยในปี 2009 มีสถานีโทรทัศน์กว่า 78 สถานี ซึ่งได้มีการถ่ายทอดการแข่งขัน ตูร์เดอฟรองซ์ ไปใน 170 ประเทศทั่วโลก

ความเป็นมาของการแข่งขันจักรยานทางไกล ตูร์เดอฟรองซ์

ในปลาย ศตวรรษที่สิบเก้า ในประเทศฝรั่งเศสการแข่งขันกีฬาจักรยานถือว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง โดยบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ ชื่อ ปิแอร์ Giffard พวกเขาได้สนับสนุนทางด้านการเงิน, การโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ของพวกเขา ในปี 1900 ผ่านตัวแทนของพวกเขา โดยพวกเขาเลือก Henri Desgrange เพื่อสร้างหนังสือพิมพ์สำหรับรายงานการแข่งขันกีฬาจักรยาน ซึ่งมีชื่อว่า "L' Auto - VELO" โดย Henri Desgrange กับ หนังสือพิมพ์ดังกล่าว ได้เริ่มจัดการแข่งขัน จักรยานทางไกล ตูร์เดอฟรองซ์ ขึ้นเมื่อ วันที่ 19 มกราคม ค.ศ 1903 โดยประกาศว่าเราจะสร้างการแข่งขันจักรยาน "ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดขึ้น คือ ตูร์เดอฟรองซ์" โดยการแข่งขันได้เปิดตัวขึ้นในเดือน กรกฎาคม ในปีเดียวกัน ซึ่งส่งผลทำให้ยอดขายของหนังสือพิมพ์ ออโต้แอล เพิ่มขึ้นอย่างสูง และยังคงดำเนินกิจการมาจนถึงทุกวันนี้


บทความอื่นๆ ที่ท่านอาจสนใจ : แนวทางการดัดแปลง จักรยาน เสือหมอบธรรมดาให้เป็น จักรยานฟิกเกียร์ แจ่มๆ

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แนวทางการดัดแปลง จักรยาน เสือหมอบธรรมดา ให้เป็น จักรยานฟิกเกียร์ แจ่มๆ

จักรยานฟิกเกียร์

     รูปภาพข้างบนนี้คือ จักรยานฟิกเกียร์ แบบทั่วๆ ไปที่เราสามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่าย จักรยาน ทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ ร้านจำหน่าย จักรยาน แทบจะทุกร้าน จะมี จักรยานฟิกเกียร์ ไว้จำหน่าย เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ จักรยาน ประเภทนี้เพิ่มขึ้น เพราะในปัจจุบันกลุ่มผู้ปั่น จักรยาน หันมาสนใจ จักรยาน ประเภทนี้กันมาก ครับ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่น ผมเห็นขี่กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ราคาของเจ้า จักรยานฟิกเกียร์ นี้ก็ไม่ไช่ถูกๆ เลยครับ ราคายืนพื้นเบาะๆ ก็ตกราวๆ คันละ ประมาณ 7,000 - 10,000 กว่าบาท จนไปถึงระดับขั้นเทพ ก็เหยียบๆ แสนกันเลยครับ วัยรุ่นหลายคนที่กำลังศึกษาอยู่ และมีทุนทรัพย์น้อยก็ อดเท่กันไปครับ เพราะถ้าเป็น จักรยาน ธรรมดาๆ คัน 3 - 4 พันบาท ก็ยังพอใหวแต่นี่ราคาเกือบๆ หมื่น ซึ่งน้องๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ คงต้องเก็บเงินค่าขนมกัน นานพอสมควรกว่าจะได้ มาขี่ซักกคัน

     วันนี้ ผมเลยจะมา แนะนำ แนวทางการดัดแปลง จักรยานเสือหมอบ ธรรมดาๆ เก่าๆให้เป็น จักรยานฟิกเกียร์ สวยๆ ไว้ขี่เล่นกันครับ น้องๆ บางคนอาจมี จักรยานเสือหมอบ เก่าๆ อยู่ที่บ้าน อาจจะยังใช้ได้อยู่หรือ ไม่ได้ใช้แล้วก็ตามครับ อย่าทิ้งนะครับ เพราะเราสามารถ นำมันมาดัดแปลงให้เป็น ฟิกเกียร์ แจ่มๆ ไว้ขี่เล่นได้ครับ และที่สำคัญ ต้นทุนต่ำอีกต่างหาก เวลาเราเบื่อแล้วก็ไม่ต้องเสียดายเงินด้วย ข้อดีก็มีเยอะมากเลย งั้นเรามาดู จักรยานฟิกเกียร์ ที่ทำการดัดแปลงมาจาก จักรยานเสือหมอบ กันเลยนะครับ โดยดูจากรูปข้างล่างครับ

ฟิกเกียร์ แปลง

จากภาพข้างบน ผมจะทำลูกศร ตรงจุดที่แตกต่างระหว่าง จักรยานเสือหมอบ กับ จักรยานฟิกเกียร์ ไว้ จริงๆ แล้วมันเยอะกว่านี้ครับ แต่เอาตรงที่จุดที่ มีความแตกต่าง กันอย่างชัดเจนจริงๆ ครับ
  1. คือจุด สำหรับใส่ สายเบรค สำหรับ จักรยานฟิกเกียร์ แล้วจะไม่มีครับ
  2. คือ จุดที่ติดตั้งกล้ามเบรค ถ้าเป็นเฟรม ฟิกเกียร์ จริงๆ แล้วจะไม่มีครับ แต่ที่ในปัจจุบันเฟรมจักรยานประเภทนี้จะมีรูให้ ติดตั้งเบรค ด้วย ผมว่าเขาคงคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ตามท้องถนนมากกว่า ติดไว้ก็ดีนะครับ ปลอดภัยไว้ก่อน
  3. คือ จานหน้าครับ รถจักรยานฟิกเกียร์ จะมีใบจานแค่อันเดียว ส่วนเสือหมอบจะมี 2 ใบ
  4. คือ จุดยึดล้อหลัง สำหรับเฟรมของ จักรยานเสือหมอบ หรือภาษาชาวบ้านเรียก "หางปลา" จะใส่โดยการคล้องแล้วดึงมาด้านหลัง ส่วน ของ ฟิกเกียร์ จะใส่จากด้านหลังแล้วดันไปข้างหน้าครับ
  5. คือ ดุมหลังนั่นเองครับ คือจุดที่เราต้องเปลี่ยนครับ สังเกตุดูว่าถ้าเป็นดุมของ จักรยานเสือหมอบ จะไม่สามารถ ใส่เฟืองหลังของฟิกเกียร์ได้ครับ
ส่วนที่เราต้องดัดแปลง

ดุมล้อ ฟิกเกียร์
ตรงจุดนี้ เรียกว่าดุมล้อครับ เราจะทำการเปลี่ยนเฉพาะดุมหลังเท่านั้นครับ เพราะดุมหน้าใช้ของเดิมได้ โดยการเปลี่ยนจาก ดุมของเดิมมาเป็นดุมของ จักรยานฟิกเกียร์ แต่เวลาเราไปซื้อ ดุมเราควร นับจำนวน ซี่ลวดของล้อเราด้วยนะครับ ว่ามีกี่ซี่ โดยทั่วไปแล้วจะมี 32 ซี่ ครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่าจริงๆ จะมี 36 ซี่ หากของเรามี 36 ซี่ ผมแนะนำใช้ ดุมของรถจักรยาน BMX แทนได้ครับ เพราะ BMX ส่วนมากจะมี 36 ซี่ ผมแนะนำถ้าใคร ขึ้นซี่ลวดล้อเองไม่เป็น ให้ร้าน จักรยาน ทำให้นะครับ จะดีกว่า โดยส่วนตัวแล้วผมจะทำเอง เพราะไม่ใว้ใจร้านที่ ทำ เพราะให้เขาทำทีไรเขาจะขึ้นซี่ลวดให้เราตึงเกินไป ข้อเสีย คือ เวลาขี่ไปนานๆ ซี่ลวดอาจขาดได้ครับ และที่สำคัญหากขาดแล้ว ล้อรถเราจะคดมากกว่าปรกติ และไม่สามารถขี่กลับบ้านได้ ต้องยกรถขึ้นสองแถวอย่างเดียว ผมเจอมาแล้วครับ ตอนนั้นทำเองไม่เป็น เลยเข้า-ออกร้าน จักรยาน บ่อยมากจนผมลำคาญ เลยฝึกทำเอง ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป หลังจากทำเองแล้วซี่รถ ผมไม่เคยขาดอีกเลย "ขอออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ใช่ระดับเซียนนะครับแค่พอทำได้ครับ"

ชุดจาน จักรยานฟิกเกียร์
ตรงจุดนี้ เราเรียกว่า จานหน้า ครับของ จักรยานฟิกเกียร์ จะมีใบจานแค่ใบเดียวครับ ส่วนของเสือหมอบจะมี 2 ใบ คือใบใหญ่ ก็ตรงจุด A นั้นแหละครับ ส่วนใบเล็กก็จุด B ครับ หากเราจะทำเป็นจานฟิกเกียร์ ก็ถอดใบใหญ่เก็บไว้ แล้วเอาใบเล็กมาใส่แทนใบใหญ่ ครับไม่ยากครับ ลองทำดูครับ หรือให้เพื่อนที่พอมีความรู้ทางด้านนี้ทำให้ แล้วเลี้ยงกาแฟ เขาสักแก้วคงพอใหวนะครับ ถ้ารักกันจริง ถ้าหากเปลี่ยนแล้ว หากไปลองปั่นแล้ว รู้สึกเบาเกินไป คือเวลาปั่นแล้วปั่นซะ ซอยยิกๆ เราควรเปลี่ยนเฟื่องหลังให้เล็กลง ให้เหลือซักประมาน 12 - 13 ฟันน่าจะพอครับ แต่ถ้าจานหน้าเป็นของเสือหมอบรุ่นเก่าๆ ใบเล็กจะมี 42 ฟันครับ แต่ถ้าเป็นจานรุ่นใหม่ จะมีแค่ 39 ฟันครับ ถ้าของเพื่อนๆ เป็นจานรุ่นเก่าที่มี 42 ฟันก็ใช้เฟื่องหลัง ประมาณ 15 - 16 ฟันน่าจะพอปั่นแบบสบายๆ ไม่หนักจนเกินไปครับ

จุดที่เราไม่ต้องดัดแปลง

เฟรม จักรยาน
จุดนี้ โดยทั่วไปเขาเรียกว่า หางปลา ครับเราไม่ต้องไปทำอะไรกับมันครับ ผมเอามาลงให้ดูเพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่าง จักรยาน ทั้งสองประเภทครับ แต่ผมเคยเห็น บางคนไปตัด หางปลาของเสือหมอบ ออกแล้วทำการเชื่อมหางปลาของ จักรยาน BMX เข้าไปแทน โดยส่วนตัวแล้วผมไม่แนะนำครับ เพราะความแข็งแรงเฟรมจะลดลง ยิ่งถ้าหากร้านที่ทำฝีมือไม่ถึงแล้ว ปัญหาจะตามมาอีกเยอะครับ ผมแนะนำใช้แบบเดิมนั่นแหละครับ ดีแล้ว ไม่งั้นผมคิดว่ามันจะไม่ คลาสสิค ผมคิดเองนะครับ

ส่วนรูปข้างล่างเป็น จักรยานฟิกเกียร์ ที่ดัดแปลงมาจาก จักรยานเสือหมอบ แต่ละคันสวยๆ ทั้งนั้นครับผมหามาให้ชมเพื่อที่เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ สามารถนำไปเป็นแนวทางในการตกแต่ง จักรยาน ของตนเองได้ครับ

ฟิกเกียร์
คันนี้ก็อย่างสวยครับจะเห็นได้ เขายังใช้จานหน้าของ เสือหมอบ อยู่ครับใหญ่เชียว คงหนักน่าดูเวลาปั่น แต่ก็สวยครับ

จักรยานฟิกเกียร์ ดัดแปลง
อีกคันที่ดัดแปลงมาได้สวยครับ แต่จานหน้าของเขาใช้ของ จักรยานฟิกเกียร์ จริงๆ  ล้อของเขายังเป็นแบบ 36 ซี่อยู่ครับซึ่งเราสามารถ นำดุมล้อของ จักรยาน BMX มาใส่แทนได้ครับ

ฟิกเกียร์ แปลงแล้ว
คันนี้ก็ทำได้สวยอีกคันหนึ่งครับ แต่เบาะน่าจะแพงอยู่ครับ

ฟิกเกียร์ จักรยานสวย
คันนี้คนขี่คงสูงน่าดูผมว่าน่า 190 ซ.ม ขึ้นนะครับ สังเกตุจากเฟรมแล้วไม่น่าพลาด เพื่อนๆ สังเกตุตรงแฮนครับ เขาตัดเอาของเสือหมอบธรรมดา นี่แหละครับมาใส่ ช่างสร้างสรรค์จริง งานก็เนียนดีครับ

ฟิกเกียร์ คลาสสิค
คันนี้เขาแต่งแนวคลาสสิค ครับแต่ก็ดูดีมีสกุล ครับตามแบบฉบับ Vintage

    หลังจากดูรูป ที่ทางผมนำมาฝากแล้ว หวังว่าเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ หลายคนคงมีแนวทางในการแต่งรถ จักรยานฟิกเกียร์ ของตนเองบ้างนะครับ ส่วนรายละเอียดลึกๆ ในการดัดแปลงวันหลังผมจะนำเสนอเป็นจุดๆ แบบเจาะลึกกันเลยครับ ยังไงก็ขอขอบคุณ ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม นะครับ!!

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ : นักปั่นจักรยาน 10 อันดับแรกที่มีคะแนน สูงสุด ปี 2011