การแข่งขัน จักรยาน รายการต่างๆ ที่น่าสนใจ

รวบรวมการแข่งจักรยาน รายการต่างๆ ที่น่าสนใจ ในส่วนนี้ ผมจะพยายาม หามาฝาก ให้ได้มากขึ้นครับ

จักรยานเสือภูเขา

สำหรับ ท่านที่เป็นแฟน จักรยานเสือภูเขา ทางผมจะพยายาม นำเรื่องราว เกี่ยวกับจักรยานประเภทนี้มานำเสนอให้มากขึ้น ครับ ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันยังน้อยอยู่ โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยถนัด ทางเสือภูเขามากเท่าไหร่ครับต้องขออภัย ไว้ล่วงหน้าหากมีข้อมูลผิดพลาด ครับ

อะไหล่ จักรยาน และเทคโนโลยี ต่างๆ

ในปัจจุบัน มีการพัฒนาไปมากครับ จนเราๆ ท่านๆ แทบจะหาเงิน มาเปลี่ยน อะไหล่พวกนี้กันแทบไม่ทัน ใครที่มีทุนมากหน่อย ก็สบายหน่อยครับ ได้ใช้ของใหม่ ก่อนใครเพื่อน ส่วนใครทุนน้อย ก็คงต้องรอของมือสองกันละครับ

จักรยาน BMX

จักรยาน BMX เป็นจักรยานที่ได้รับความนิยม มาอย่างยาวนาน และการพัฒนาของจักรยานประเถทนี้ ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่า จักรยาน ประเภทอื่นเลยครับ

จักรยาน ไทม์ไทรอัล

จักรยาน ประเภท ไทม์ไทรอัล หรือที่ใครหลายคน เรียกว่าจรวจทางเรียบ นั่นแหละครับ

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

อาการปวดเมื่อยจากการขี่ จักรยาน และวิธีแก้ไข

bike fit

    หลายคนคงเคยประสบปัญหาว่าเวลาปั่น จักรยาน ไปนานๆ แล้วรู้สึกปวดหลัง, ปวดคอ, ปวดไหล่ และปวดส่วนอื่นๆ ของร่างกายเวลาปั่น จักรยาน ไม่ใช่อาการปวดแบบเรื้อรัง แค่เราพัก หรือนวดแล้วอาการเหล่านี้ก็จะหายไป แต่พอกลับไปปั่นจักรยานอีกอาการปวดเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นอีก อาการเหล่านี้ นั้นอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เราหยุดปั่นเป็นเวลานานๆ แล้วกลับมาปั่นอีกอาการเหล่านี้ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากเราปั่น จักรยาน มานานแล้วยังมีอาการปวดเหล่านี้อีกก็แสดงว่าเกิดสิ่งผิดปรกติขึ้น และสิ่งที่ผมกำลังจะกล่าวต่อไปนี้ คือสิ่งผิดปรกติที่เกิดจากการปรับขนาด หรือระยะของอุปกรณ์ จักรยาน ไม่ถูกต้องเช่น เบาะอาจจะปรับไปข้างหน้า หรือหลังมากเกินไป, คอแฮนด์ หรือสเตมอาจจะสั้นหรือยาวเกินไปเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของอาการปวดเมื่อยทั้งสิ้น ดังนั้นเรามาดูกันว่าอาการปวดเมื่อยของร่างกายแต่ละอย่างนั้นสาเหตุเกิดจากอะไร และเราจะมีวิธีการแก้ไขเบื่องต้นอย่างไรครับ

อาการ

สาเหตุ

วิธีแก้ไข

เวลาปั่นคุณมักจะต้องเขยิบตัวไปข้างหลังบ่อยครั้ง

คอแฮนด์ หรือสเตมยาวเกินไป, องศาของเบาะนั่งก้มลงมากเกินไป

เปลี่ยนคอแฮนด์ให้สั้นลง, ปรับองศาเบาะนั่งให้เงยขึ้นเล็กน้อย

เวลาปั่นคุณมักจะต้องเขยิบตัวไป
ข้างหน้าบ่อยครั้ง
คอแฮนด์ หรือสเตมสั้นเกินไป, เบาะนั่งถูกปรับไปข้างหลังมากเกินไป

เปลี่ยนคอแฮนด์ให้ยาวขึ้น, ปรับเบาะนั่งไปข้างหน้าตามความเหมาะสม

อาการปวดหลังส่วนล่าง

คอแฮนด์ หรือสเตมต่ำเกินไป, เบาะนั่งสูงเกินไป

ปรับคอแฮนด์ขึ้น, ปรับเบาะนั่งลงตามความเหมาะสม

ปวดต้นคอเวลาปั่น

ปรับตั้งคอแฮนด์ต่ำเกินไป

ปรับคอแฮนด์ให้สูงขึ้น ตามความเหมาะสม

ปวดมือ, เจ็บมือ

คอแฮนด์ต่ำเกินไปทำให้น้ำหนักตัวไปตกอยู่ตรงส่วนหน้ามากเกินไปส่งผลถึงมือของเราต้องรับน้ำหนักมากไปด้วยจึงทำให้ปวดมือ

ปรับตั้งคอแฮนด์ให้สูงขึ้นตามความเหมาะ
สม

ปวดหัวเข่าด้านหน้า

เบาะนั้งต่ำเกินไป

ปรับเบาะนั่งให้สูงขึ้นอย่างเหมาะสม

ปวดหัวเข่าด้านหลัง

เบาะนั่งสูงเกินไป

ปรับเบาะนั่งให้ต่ำลงตามสมควร

รู้สึกก้นชาตลอดเวลาการปั่น

น้ำหนักตัวส่วนใหญ่ลงมาที่เบาะนั่งมากเกินไป

ปรับคอแฮนด์ให้ต่ำลง หรือปรับเบาะนั่งให้สูงขึ้นแล้วแต่ความเหมาะสม

รุ้สึกร้อนที่เท้า หรือปวดร้อนเท้าเวลาปั่น

รองเท้าปั่นคับเกินไป,
คลิปล็อคบรรไดถูกปรับไปข้างหน้ารองเท้ามากเกินไป

หารองเท้า จักรยาน คู่ใหม่ที่ใหญ่
กว่าเท้าเรา 1 เบอร์ เช่น เท้าเปล่าเราเบอร์ 40 ให้หารองเท้าเบอร์ 41 หรือ 41 ครึ่ง , ปรับคลิปล็อคบรรไดให้ถอยมาข้างหลังอย่างเหมาะสม

ปวดเอ็นร้อยหวาย

ในการปั่นคุณลงน้ำหนักไปที่นิ้วเท้ามากเกินไป หรือคุณปรับคลิปล็อคบรรไดไปข้างหน้ามากเกินไป

ปรับคลิปล็อคบรรไดถอยกลับมาตามความเหมาะสม



หมายเหตุ ในการปรับระยะของอุปกรณ์ควรปรับที่ละน้อยๆ เช่น ปรับทีละ 1-2 ม.ม แล้วออกไปปั่นฝึกซ้อมจักรยานตามปรกติแล้วสังเกตุอาการปวดของเราว่ามันบรรเทาลง หรือไม่ หากยังไม่หายให้กลับมาปรับเพิ่ม หรือลดจนกว่าอาการปวดของเราจะหายไปเวลาเราปั่น ควรใจเย็นๆ นะครับเพราะมันอาจต้องใช้เวลาในการปรับหลายวันพอเราได้ขนาดที่เหมาะสมกับตัวเราแล้ว เราควรจดขนาดต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวเราใส่กระดาษไว้เพราะหากวันหลังเราเปลี่ยน จักรยาน คันใหม่เราจะได้นำข้อมูลส่วนตัวของเราไปปรับใช้กับ จักรยาน คันใหม่ได้เลยไม่ต้องเสียเวลามาลองผิดลองถูกอีกครับ ขอบคุณทุกคนครับ

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

การฝึกซ้อมจักรยาน สำหรับผู้เริ่มต้น

training bike

    สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกซ้อม จักรยาน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรผมได้ไปหาข้อมูลมาฝากแก่ผู้ที่มีความสนใจ หรือต้องการที่จะเริ่มต้นฝึกซ้อม โดยโปรแกรมที่ผมจะมานำเสนอนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มต้นจริงๆ เพราะมันเป็นโปรแกรมที่ไม่หนักมากเกินไป เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยการปั่น จักรยาน ก็สามารถนำโปรแกรมนี้ไปใช้ได้นะครับ โดยโปรแกรมนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน สำหรับผู้ที่เป็นนักปั่นระดับอาชีพ หรือผู้ที่เคยฝึกซ้อมเป็นประจำแต่ห่างหายจากการฝึกซ้อมไปเป็นเวลานานๆ และต้องการจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ก็สามารถนำไปใช้ได้ไม่ว่ากันครับโดยตัวโปรแกรมการฝึกซ้อม จะแบ่งเป็น 4 สัปดาห์ นะครับมาดูกันเลยครับ

สัปดาห์ที่ 1

วันจันทร์

30 นาที

ปั่น จักรยาน เบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพ หลังจากนั้นปั่นด้วยรอบขา 100 rpm 30 วินาทีจำนวน 10 set ระหว่าง set พัก 1 นาที พอครบ ก็ cooldown 5 นาที ก่อนหยุดการซ้อม

วันอังคาร

30 นาที

ปั่นเบาๆ 30 นาที โดยระหว่างการปั่นควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm

วันพุธ

48 นาที

ปั่นเบาๆ 15 นาทีเป็นการวอมอัพจากนั้นปั่นด้วยรอบขา 55 - 65 rpm 4 นาที จำนวน 4 set ระหว่าง set พัก 3 นาที พอครบ 4 set ก็ cooldown 5 นาที ก็เป็นอันจบ

วันพฤหัสบดี 30 นาที

ปั่นเบาๆ 30 นาที โดยระหว่างการปั่น จักรยาน ควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันศุกร์

วันพัก

อาจจะไปเดินเล่น หรือว่ายน้ำก็ได้ครับ

วันเสาร์

30 นาที

ปั่นเบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพโดยวันนี้จะปั่น จักรยาน ด้วยขาข้างเดียว ถ้าใครมี เทรนเนอร์จะดีมากครับ เริ่มด้วยข้างใหนก่อนก็ได้ครับ โดยขาข้างหนึ่งให้เหยีบบเก้าอี้ใว้แล้ว ข้างที่ปั่นให้ปั่นไป 1 นาที พอครบก็สลับขาอีกข้างปั่นทำไปให้ครบข้างละ 5 set พอครับก็ cooldown 10 นาที การฝึกแบบนี้จะช่วยเรื่องการใช้กล้ามเนื้อของขาอย่างมีประสิทธิภาพครับ และทำให้เราปั่นได้นิ่งมากครับ

วันอาทิตย์

45 นาที

วันออกไปปั่น จักรยาน ไกลๆ หน่อยปั่นตามใจเลยครับโดยใช้เวลา 45 - 75 นาที



สัปดาห์ที่ 2

วันจันทร์ 38 นาที

ปั่นเบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพแล้วปั่นด้วยรอบขา 100 rpm 30 วินาทีจำนวน 15 set ระหว่าง set พัก 1 นาที พอครบ ก็ cooldown 5 นาที ก่อนหยุดการซ้อม
วันอังคาร 40 นาที

ปั่นเบาๆ 40 นาที โดยระหว่างการปั่นควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันพุธ 52 นาที

ปั่นเบาๆ 15 นาทีเป็นการวอมอัพจากนั้นปั่นด้วยรอบขา 55 - 65 rpm 5 นาที จำนวน 4 set ระหว่าง set พัก 3 นาที พอครบ 4 set ก็ cooldown 5 นาที ก็เป็นอันจบ
วันพฤหัสบดี 30 นาที

ปั่นเบาๆ 30 นาที โดยระหว่างการปั่น จักรยาน ควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันศุกร์ วันพัก

อาจจะไปเดินเล่น หรือว่ายน้ำก็ได้ครับ
วันเสาร์ 35 นาที

ปั่นเบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพโดยวันนี้จะปั่นด้วยขาข้างเดียว ถ้าใครมี เทรนเนอร์จะดีมากครับเริ่มด้วยข้างใหนก่อนก็ได้ครับ โดยขาข้างหนึ่งให้เหยีบบเก้าอี้ใว้แล้วข้างที่ปั่น จักรยาน ให้ปั่นไป 1 นาที พอครบก็สลับขาอีกข้างปั่นทำไปให้ครบข้างละ 7 set พอครับก็ cooldown 10 นาที
วันอาทิตย์ 55 นาที

วันออกไปปั่นไกลๆ หน่อยปั่นตามใจเลยครับโดยใช้เวลา 55 - 75 นาที


สัปดาห์ที่ 3

วันจันทร์ 33 นาที

ปั่นเบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพแล้วปั่นด้วยรอบขา 105 rpm 45 วินาทีจำนวน 10 set ระหว่าง set พัก 1 นาทีพอครบ ก็ cooldown 5 นาที ก่อนหยุดการซ้อม
วันอังคาร 40 นาที

ปั่นเบาๆ 40 นาที โดยระหว่างการปั่น จักรยาน ควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันพุธ 56 นาที

ปั่นเบาๆ 15 นาทีเป็นการวอมอัพจากนั้นปั่นด้วยรอบขา 55 - 65 rpm 6 นาที จำนวน 4 set ระหว่าง set พัก 3 นาที พอครบ 4 set ก็ cooldown 5 นาที ก็เป็นอันจบ
วันพฤหัสบดี 40 นาที

ปั่นเบาๆ 40 นาทีโดยระหว่างการปั่นควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันศุกร์ วันพัก

อาจจะไปเดินเล่น หรือว่ายน้ำก็ได้ครับ
วันเสาร์ 35 นาที

ปั่น จักรยาน เบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพโดยวันนี้จะปั่นด้วยขาข้างเดียว ถ้าใครมี เทรนเนอร์จะดีมากครับเริ่มด้วยข้างใหนก่อนก็ได้ครับ โดยขาข้างหนึ่งให้เหยีบบเก้าอี้ใว้แล้วข้างที่ปั่นให้ปั่นไป 1 นาที พอครบก็สลับขาอีกข้างปั่นทำไปให้ครบข้างละ 7 set พอครับก็ cooldown 10 นาที
วันอาทิตย์ 60 นาที

วันออกไปปั่นไกลๆ หน่อยปั่นตามใจเลยครับโดยใช้เวลา 60 - 80 นาที


สัปดาห์ที่ 4

วันจันทร์ 36 นาที

ปั่นเบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพแล้วปั่น จักรยาน ด้วยรอบขา 105 rpm 45 วินาทีจำนวน 12 set ระหว่าง set พัก 1 นาทีพอครบ ก็ cooldown 5 นาที ก่อนหยุดการซ้อม
วันอังคาร 45 นาที

ปั่นเบาๆ 45 นาที โดยระหว่างการปั่นควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันพุธ 60 นาที

ปั่นเบาๆ 15 นาทีเป็นการวอมอัพจากนั้นปั่นด้วยรอบขา 55 - 65 rpm 7 นาที จำนวน 4 set ระหว่าง set พัก 3 นาที พอครบ 4 set ก็ cooldown 5 นาที ก็เป็นอันจบ
วันพฤหัสบดี 40 นาที

ปั่นเบาๆ 40 นาที โดยระหว่างการปั่นควรรักษารอบขาไว้ที่ ประมาณ 85 - 95 rpm
วันศุกร์ วันพัก

อาจจะไปเดินเล่น หรือว่ายน้ำก็ได้ครับ
วันเสาร์ 35 นาที

ปั่นเบาๆ 10 นาทีเป็นการวอมอัพโดยวันนี้จะปั่นด้วยขาข้างเดียว ถ้าใครมี เทรนเนอร์จะดีมากครับเริ่มด้วยข้างใหนก่อนก็ได้ครับ โดยขาข้างหนึ่งให้เหยีบบเก้าอี้ใว้แล้วข้างที่ปั่นให้ปั่นไป 1 นาที พอครบก็สลับขาอีกข้างปั่นทำไปให้ครบข้างละ 7 set พอครับก็ cooldown 10 นาที
วันอาทิตย์ 70 นาที

วันนี้ออกไปปั่น จักรยาน ไกลๆ หน่อยปั่นตามใจเลยครับช้าบ้างเร็วบ้างสลับกันไป โดยใช้เวลาประมาณ 70 - 85 นาที

    จะเห็นได้ว่าตารางการฝึกซ้อมข้างต้นไม่หนักเลยนะครับเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่หยุดปั่น จักรยาน ไปเป็นเวลานานๆ แล้วต้องการกลับมาปั่น จักรยาน ใหม่อีกครั้ง หรืออาจจะเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเขาโปรแกรมฝึกซ้อมแบบเข้มข้นต่อไปครับ โดยจริงๆ แล้วยังมีโปรแกรมการบริหารร่างกายหลังจากปั่นจักรยานอีกนะครับไว้วันหลังผมจะนำมาฝากอีกนะครับ ขอบคุณมากครับ