การแข่งขัน จักรยาน รายการต่างๆ ที่น่าสนใจ

รวบรวมการแข่งจักรยาน รายการต่างๆ ที่น่าสนใจ ในส่วนนี้ ผมจะพยายาม หามาฝาก ให้ได้มากขึ้นครับ

จักรยานเสือภูเขา

สำหรับ ท่านที่เป็นแฟน จักรยานเสือภูเขา ทางผมจะพยายาม นำเรื่องราว เกี่ยวกับจักรยานประเภทนี้มานำเสนอให้มากขึ้น ครับ ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันยังน้อยอยู่ โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยถนัด ทางเสือภูเขามากเท่าไหร่ครับต้องขออภัย ไว้ล่วงหน้าหากมีข้อมูลผิดพลาด ครับ

อะไหล่ จักรยาน และเทคโนโลยี ต่างๆ

ในปัจจุบัน มีการพัฒนาไปมากครับ จนเราๆ ท่านๆ แทบจะหาเงิน มาเปลี่ยน อะไหล่พวกนี้กันแทบไม่ทัน ใครที่มีทุนมากหน่อย ก็สบายหน่อยครับ ได้ใช้ของใหม่ ก่อนใครเพื่อน ส่วนใครทุนน้อย ก็คงต้องรอของมือสองกันละครับ

จักรยาน BMX

จักรยาน BMX เป็นจักรยานที่ได้รับความนิยม มาอย่างยาวนาน และการพัฒนาของจักรยานประเถทนี้ ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่า จักรยาน ประเภทอื่นเลยครับ

จักรยาน ไทม์ไทรอัล

จักรยาน ประเภท ไทม์ไทรอัล หรือที่ใครหลายคน เรียกว่าจรวจทางเรียบ นั่นแหละครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความตื่นเต้นของผมตอนแข่งขันจักรยาน ครั้งแรกในชีวิต

แข่งจักรยานครั้งแรก
ความรู้สึกแบบนี้หากคนไหนไม่เคยลงสนามเพื่อแข่งขันกีฬาจักรยาน หรือแม้กระทั่งกีฬาประเภทอื่นๆ ก็ตาม เขาเหล่านั้นก็จะไม่สามารถอธิบายได้อย่างละเอียดครับว่า คนที่อยู่ ณ. จุดสตาร์จในขณะนั้นเขารู้สึกกันยังไง ยิ่งถ้าหากการแข่งขันครั้งนั้นเป็นครั้งแรกด้วยแล้วละก็ ขอบอกได้เลยครับว่าไม่ว่าใครก็ต้องตื่นเต้นด้วยกันทั้งสิ้นครับ ซึ่งตัวผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ คือจะทำอะไรก็ดูผิดพลาดไปหมด, มือเท้าสั่น, หัวใจเต้นแรงถึงแรงมาก และยังมีอีกหลายอาการครับ ซึ่งแต่ละคนนั้นในความคิดผมนะครับ ผมว่าอาการตื่นเต้นที่แสดงออกมาของแต่ละคนจะแตกต่างกันครับ ในที่นี้ผมขอเล่าประสบการณ์ ในการแข่งขันจักรยานครั้งแรกของตัวผมเองเลยนะครับ ชัดเจนดี ซึ่งผมไม่เคยลืมเลยครับถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไป ประมาณ 20 กว่าปี แล้วก็ตาม

การแข่งขันจักรยานครั้งแรกของผมเกิดขึ้นที่จังหวัดแพร่

โดยผมเป็นตัวแทนนักกีฬาจักรยานจากจังหวัดเชียงใหม่ ตอนฝึกซ้อมใช้จักรยานธรรมดาที่ประกอบเองกับมือ ที่สมัยนี้คนส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า "จักรยานวินเทจ" นั่นแหละครับ คือรุ่นเก่าถึงเก่ามากนั่นเองครับ เก็บเงินประกอบขึ้นมาทีละชิ้นเลยก็ว่าได้ครับ ก็ใจมันรักหละครับ ตอนนั้นจำได้ผมยังเรียนอยู่ชั่น ม.6 ครับ ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ ผมต้องลงแข่งขันถึง 3 รายการครับคือ
  • วันแรก คือ ประเภทถนนไทม์ไทรอัล 100 กิโลเมตร (หรือที่เราเรียกกันว่า ทีม 100 นั่นแหละครับ)
  • วันที่สอง คือ ประเภททีมเปอร์ซูท (ประเภทลู่ ครับ 4000 เมตร ทีม)
  • วันสุดท้าย คือ ประเภทถนนทางไกล 180 กิโลเมตร
วันแรก ที่ทำการแข่งขันทีม 100 ซึ่งคืนก่อนวันแข่งขันทางโค้ช เขาได้หาจักรยานคันใหม่ให้ผมขี่คือผมเข้าใจครับว่า เขาต้องการให้ผมได้รถที่มีคุณภาพดี นี่คือข้อผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งครับ ที่ตัดสินใจลงไป เพราะผมรู้สึกขี่ไม่สบายเลยเพราะช่วงรถนั้น ไม่เหมาะสมกับตัวผมคือจักรยานคันที่นำมาเปลี่ยนนี้ มันใหญ่กว่าตัวผมมากครับ ปรกติผมจะขี่จักรยาน ไซส์ที่เล็กกว่าไซส์ปรกติ ประมาณ 1 ไซด์ ครับ หลายคนอาจคิดว่าทำไม่หละ ผมตอบได้เลยครับว่า ผมเป็นคนช่วงตัวยาว แต่ขาผมสั้นครับ ผมสูง 179 ซ.ม. ผมจึงสามารถขี่จักรยานเสือหมอบ ไซส์ 52-54 ได้สบายครับ แค่หาสเต็มยาวๆ ผมก็ขี่จักรยานไซส์เล็กได้แล้วครับ แต่คันที่ผมต้องขี่ไซส์ตั้ง 57 พี่ๆ เขาปรับให้เข้ากับตัวผมที่สุดแล้วนะครับ แต่ก็ยังขี่ไม่สบายอยู่ดี มันเบากว่า และอะไหล่ดีกว่าก็จริงครับ แต่ต้องฝืนขี่ลำบากมากครับ

ซึ่งรายการนี้เป็นการแข่งขันรายการแรกในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ครับ ความตื่นเต้นไม่ต้องพูดถีงครับ ทั้งตื่นเต้นทั้งตื่นสนาม รวมอยู่ที่ผมหมดเลยครับ ยิ่งตอนที่กรรมการเรียกให้ไปที่จุดสตาร์ท ใจยิ่งเต้นแรงครับ อาการเหล่านี้จะค่อยลดไปเองครับ หากเราทำการแข่งขันบ่อยๆ แต่จะไม่หมดไปแน่นอนครับ คือทุกครั้งที่เราแข่งขันไม่ว่ากีฬาประเภทไหนก็ตามครับนักกีฬาทุกคน มีความตื่นเต้นหมดครับ ไม่ว่าจะผ่านสนามมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งก็ตาม เหตุเพราะมันคือการแข่งขันกับคนอื่นนั่นเองครับ สังเกตุง่ายๆ ครับเวลาเราฝึกซ้อมจับเวลา ด้วยตัวเองนั้นความตื่นเต้นแทบจะไม่มีเลย หรือถ้าหากมีก็จะน้อยมากๆ ครับ สรุปในวันแรกนี้ทีมผมกับพี่ๆ ได้แค่เหรียญเงินครับ จากการแข่งขันจักรยานประเภทถนนไทม์ไทรอัล 100 กิโลเมตร

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด ในการลดความตื่นเต้นก่อนการแข่งขันก็คือ พยายามนึกอยู่เสมอว่านี้คือการซ้อมนั่นเองครับ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะทำได้ยากครับ คือใครๆ ก็พูดได้แต่เวลาทำนั้นทำได้ยากครับ เราจึงจำเป็นต้องฝึกบ่อยๆ โดยพยายามทำดังนี้ครับ "ตอนเราฝึกซ้อมก็นึกเสียว่าเรากำลังแข่งขัน พอตอนแข่งขันจริงๆเราก็นึกเสียว่านี่คือการซ้อมใหญ่" พยายามเล่นกีฬาให้สนุกครับ กีฬาไม่ได้มีใว้ให้เราเครียดนะครับ ถ้าเครียดแล้วเราจะเล่นกีฬาเพื่อ....?

วันที่สอง ผมต้องลงทำการแข่งขันจักรยานประเภททีมเปอร์ซูทครับ ขอบอกไว้เลยว่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการแข่งประเภทถนนอีกครับ ต้องอธิบายก่อนครับว่าสมัยก่อนต้องขี่กันในลู่ดินครับ คือลู่วิ่งที่เขาใช้ทำการแข่งขันกรีฑา นั่นแหละครับ จักรยานจะเริ่มแข่งได้ก็ต่อเมื่อ การแข่งขันกรีฑาทุกประเภทเสร็จสิ้นลงเสียก่อนครับ พอเสร็จแล้วก็จะมีรถมาพรมน้ำ, ปรับหน้าดินให้เรียบ และแน่นครับ แต่ยังไงก็อันตรายอยู่ดีครับ ซึ่งถ้าใครยังพอนึกภาพสนามกรีฑาออก จะเห็นว่าโค้งในสนามจะเป็นรูปตัว ยู คือมันยิ่งกว่าโค้งหักสอกอีกครับ ลองนึกสภาพรถจักรยานที่ขี่มาด้วยความเร็ว 50 - 60 ก.ม./ชั้วโมง แล้วต้องเข้าโค้งแบบนี้ โอกาสเกิดอุบัติเหตุนั่นมีได้ตลอดครับ แต่โชคดีครับปีนี้ผมไม่ล้ม รายการนี้ผมกับพี่ๆ ในทีมทำดีที่สุดแล้ว ได้เหรียญเงินครับ แพ้ทีมจากจังหวัดพะเยาครับ

วันสุดท้าย ผมต้องลงทำการแข่งขันจักรยานประเภทถนน ระยะทาง 180 กิโลเมตร ซึ่งในภาษานักปั่นจักรยานมักจะเปรียบเทียบ รายการแข่งขันนี้ราวดั่งหนังชีวิตครับ เพราะระยะทาง มันช่างไกลแสนไกล ยิ่งถ้าได้แข่งขันกันในภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงชันแล้วละก็ โอ้ว!! สุดจะบรรยายเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ได้ยากครับ ซึ่งในรายการนี้ ความตื่นเต้นของผมจะน้อยกว่าวันแรกๆ มากครับ โดยก่อนการแข่งขันผมนึกในใจว่าวันนี้ต้องเหนื่อยแบบสุดๆ แน่ๆ แต่ที่จริงแล้วมันไม่เหนื่อยอย่างที่คิดครับ ตอนซ่อมผมเหนื่อยกว่านี้อีกครับ หลายคนคงคิดว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็เพราะว่าเวลาเราแข่งขันจริงๆ สำหรับประเภทถนนทางไกลแบบนี้มันไม่ได้ต้องปั่นเร็วตลอดครับ มันจะเป็นการปั่นเพื่อดูชั้นเชิง, หลอกล่อ, สปริ้นหนีเพื่อทดสอบแรง ของฝ่ายตรงข้ามครับ คนแรงเยอะๆ ไม่จำเป็นว่าต้องชนะเสมอไป ดังนั้นผมเด็กใหม่จึงโดนหลอกแบบง่ายๆ เลยครับ ซึ่งผมจะอธิบายว่าผมโดนหลอกอย่างไรครับ คือระหว่างที่ทำการแข่งขันอยู่นั้นมีเส้นทางอยู่ช่วงหนึ่งที่ต้องขึ้นเขาสูงชันยาวเลยครับ (โดยส่วนตัวผมชอบอยู่แล้วครับทางขึ้นเขา และผมว่าผมทำได้ดีด้วยครับ ผมไม่ได้ชมตัวเองนะครับ!! เพราะตอนฝึกซ้อมผมจะซ้อมเส้นทาง เชียงใหม่ - อ.เชียงดาว ประจำอยู่แล้วครับ) ระหว่างทางที่ขึ้นเขาดังกล่าว ผมก็ปั่นตามจังหวะของผมปรกติไม่ได้คิดอะไร แต่พอลองหันกลับไปดูข้างหลัง ผมพบว่าตัวเองปั่นทิ้งหากออกมาจากกลุ่มพร้อมกับพี่คนหนึ่งตามหลังผมมา ติดๆ แต่ไม่ใช่เพื่อนร่วมของทีมผม ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรพยายามตั้งใจปั่นไปเรื่อยๆ สักพักพี่ที่ปั่นตามหลังผมเขาก็ตะโกนบอกว่า "น้องๆ จะรีบไปไหนไม่รอเพื่อนข้างหลังก่อนหรือ" ผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนร่วมทีมอีกสามคนอยู่ข้างหลัง ผมเลยเชื่อพี่เขาครับ เพราะกลัวว่าเพื่อนๆ ในทีมจะไล่ตามผมกับพี่เขาไม่ทัน พอหลังการแข่งผมจึงได้รู้ว่า ผมโดนหลอก เพราะพี่คนนั้นเขารู้ครับถ้าปล่อยผมไปผมคงปั่นไปทันกลุ่มแรกแน่ๆ เพราะผมไม่ได้สังเกตุว่าช่วง ประมาณ 30 กิโลเมตรแรก นั้นมีคนสปริ้นหนีออกจากกลุ่มไป 2 คน ซึ่งมี 1 คนในนั้นเป็นทีมเดียวกับพี่เขาครับ สรุป รายการนี้ ทีมผมได้แค่เหรียญเงินอีกเช่นเคยครับ ดังนั้นการแข่งขันจักรยานระยะทางไกลๆ แบบนี้ การวางแผนของโค้ช และประสบการณ์ของนักกีฬา เป็นเรื่องสำคัญ ไม่แพ้พละกำลังครับ


บทความที่น่าสนใจอื่นๆ วิธีวอร์มอัพ ก่อนทำการแข่งขันจักรยาน