สิ่งที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อจักรยานทัวร์ริ่งมีดังนี้ครับ
- งบประมาณในการเลือกซื้อจักรยาน ซึ่งมันเป็นตัวกำหนดเลยครับว่าเราจะได้รถตามแบบที่เราต้องการหรือเปล่า เช่น ถ้าเราต้องการจักรยานทัวร์ริ่ง ยี่ห้อดังๆ อะไหล่ระดับ Shimano Dura Ace แต่เรามีงบ 20,000 บาท อันนี้คงเป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ แต่เดี๋ยวก่อน!! ใช่ว่าหากคุณมีงบประมาณตามนี้แล้วคุณจะหารถดีๆ มาขี่ไม่ได้นะครับ รถดีๆ แต่ราคาไม่แพงก็มีครับอยู่ที่เราจะเลือกเป็นหรือเปล่าครับ
- จักรยานประเภทนี้ต้องขี่สบายไม่ปวดเมื่อยง่ายๆ เพราะเราต้องใช้เวลาอยู่บน จักรยานนานมากๆ ครับ ไม่มีจักรยานคันไหน ที่จะมี Size พอดีกับเราเปะหลอกครับ คือเราต้องปรับตัวเข้ากับจักรยานให้ได้ครับ แต่จักรยานที่ดี ควรทำให้ผู้ขี่มีการปรับตัวให้เข้ากับจักรยานน้อยที่สุดครับ เช่น ปรับแฮนด์, ปรับ Stem หรือ อาจจะปรับเบาะนั่งแค่นิดหน่อย ก็ขี่สบายแล้วครับ
- ในส่วนของเฟรมจักรยานทัวร์ริ่ง โดยส่วนตัวแล้วผมชอบแบบโครโมลี่ (ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างเหล็กและโมลิบดีนั่ม) ครับเพราะขี่ได้นุ่มนวลกว่า แต่มันจะออกตัวช้าบ้างก็ไม่เป็นไรครับ แต่เมื่อทำความเร็วได้คงที่แล้ว ผู้ขี่จะออกแรงในการปั่นน้อยกว่า เฟรมแบบอลูมิเนียมครับ ซึ่งตรงกับจุดประสงค์ของเรา คือปั่นระยะทางไกลๆ แต่ใช้แรงอย่างประหยัดครับ แต่ข้อเสียของเฟรมแบบโครโมลี่ก็มีนะครับ เช่นดูแลยากเพราะมันขึ้นสนิมได้ครับ และอีกอย่างครับ เวลาขึ้นเนินเขาเราต้องออกแรงเยอะกว่าเฟรมแบบอลูมิเนียมครับ แต่โดยรวมในความคิดของผมก็ยังชอบเฟรมแบบโครโมลี่ มากกว่าอลูมิเนียมครับ แต่ยังไงแล้วก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะซื้อด้วยครับ ว่าชอบแบบไหน ชอบขี่ทางเรียบเยอะๆ ก็โครโมลี่ แต่หากชอบทางที่เป็นเนินเขาเยอะๆ ก็เลือกอลูมิเนียมครับ
- ในส่วนของแร็คและบังโคลน ผมถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับจักรยานทัวร์ริ่งครับ เจ้าแร็คนี้จะช่วยให้เราบรรทุกของที่จำเป็นในการเดินทาง และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ในการดำรงชีวิต เช่นถุงนอน หรือเต้น ส่วนบังโคลนประโยชน์ของมันคือเวลาเราปั่นไปเจอทางเปียก หรือฝนตกมันจะกันสิ่งสกปรกดีดขึ้นมาใส่เสื้อผ้าเราได้ และยังทำให้รถของเราไม่สกปรกมากเวลาเจอทางที่เป็นโคลนเยอะๆ ครับ
-
แฮนด์จักรยานทัวร์ริ่ง ที่ผมเห็นส่วนใหญ่จะมีสองแบบ คือแบบตรงคล้ายๆ ของจักรยานเสือภูเขา และแบบ Drop ก็แบบเสือหมอบครับ หากคุณจะใช้เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวจริงๆ ผมแนะนำ แบบ Drop ครับเพราะเราสามารถเปลี่ยนการจับแฮนด์ได้หลายแบบ เช่น จับบน, จับล่าง, จับข้าง หรือ จะจับตรงส่วนเบรค มันจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดีครับ
- ทางด้านล้อจักรยานประเภทนี้ที่นิยนกันก็จะมี 2 Size ครับคือ ขนาด 26 นิ้ว และ ขนาด 700c ซึ่งขนาด 26 นิ้วเวลาเราขี่จะมีความนิ่ง และไม่วอกแวก เพราะวงล้อมันเล็กกว่าขนาด 700c ครับ
-
สิ่งที่ผมได้เขียนบรรยายมาข้างบนนั้นก็เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่ กำลังมองหาจักรยานทัวร์ริ่ง สักคันแต่ประเด็นหลักแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยว่าต้องการจะนำไปใช้ใน การเดินทางไกลจริงๆ หรือเปล่าหากต้องการแค่ ใช้ปั่นเล่นเฉยๆ อันนี้ไม่ต้องลงรายละเอียดมากนักครับ หากเรามีตังก็ซื้อมาใช้ได้เลยครับ แต่หากเราจะนำไปใช้เพื่อเดินทางท่องเที่ยวจริงๆ อันนี้ต้องละเอียดในการเลือกซื้อหน่อยก็ดีครับ ขอบคุณครับ